วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทำยังไงเมื่อคอมฯของคุณบอกให้ restart เครื่องไม่หยุดหลัง Windows Updates

ผู้ใช้งาน Windows ทุกคนคงเคยเจอสถานะการณ์ที่เครื่องคอมพิวเตอรของคุณแจ้งเตือนให้ทำการ restart เครื่องตลอดเวลาเนื่องจากคุณได้ทำการอัพเดท Windows นั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณสามารถที่จะ disable หน้าต่างแจ้งเตือนให้ restart ได้แล้วค่อยมาทำการ restart ทีหลังด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญ คุณคงเคยเจอหน้าต่างที่แจ้งเตือนให้ restart คอมพิวเตอร์ของคุณดังภาพข้างบน ซึ่งโดยปกติมันจะแจ้งเตือนทุก ๆ 10 นาทีหลังจากการทำ system update จนกว่าคุณจะทำการ restart คอมพิวเตอร์ของคุณ เราสามารถทำ shortcut เพื่อปิดการทำงานนี้ โดยทำการ doublic-clicked ที่ short cut เท่านั้น หน้าต่างแจ้งเตือนให้ restart คอมพิวเตอร์ก็จะไม่มากวนใจคุณอีก ให้คุณเปิด notepad ขึ้นมาโดยไปที่ Start –> Run แล้วพิมพ์คำว่า notepad เมื่อเปิด notepad ขึ้นมาแล้วให้พิมพ์ข้อความนี้ลงไป net stop wuauserv จากนั้นให้ทำการ save ตัว notepad เป็นชื่ออะไรก็ได้ที่มีนามสกุล .bat อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าในช่อง [...]

ผู้ ใช้งาน windows ทุกคนคงเคยเจอสถานะการณ์ที่เครื่องคอมพิวเตอรของคุณแจ้งเตือนให้ทำการ restart เครื่องตลอดเวลาเนื่องจากคุณได้ทำการอัพเดท windows นั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณสามารถที่จะ disable หน้าต่างแจ้งเตือนให้ restart ได้แล้วค่อยมาทำการ restart ทีหลังด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดความรำคาญ

restart-now

คุณคงเคยเจอหน้าต่างที่แจ้งเตือนให้ restart คอมพิวเตอร์ของคุณดังภาพข้างบน ซึ่งโดยปกติมันจะแจ้งเตือนทุก ๆ 10 นาทีหลังจากการทำ system update จนกว่าคุณจะทำการ restart คอมพิวเตอร์ของคุณ เราสามารถทำ shortcut เพื่อปิดการทำงานนี้ โดยทำการ doublic-clicked ที่ short cut เท่านั้น หน้าต่างแจ้งเตือนให้ restart คอมพิวเตอร์ก็จะไม่มากวนใจคุณอีก

ให้คุณเปิด notepad ขึ้นมาโดยไปที่ start –> run แล้วพิมพ์คำว่า notepad

run1

notepad

เมื่อเปิด notepad ขึ้นมาแล้วให้พิมพ์ข้อความนี้ลงไป net stop wuauserv

netstop

จากนั้นให้ทำการ save ตัว notepad เป็นชื่ออะไรก็ได้ที่มีนามสกุล .bat อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าในช่อง save as type: คุณได้เลือกเป็น all files และถ้าต้องการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยในช่อง encoding: ให้เปลี่ยนเป็น utf-8 และอย่าลืมเลือก save ไว้ที่ desktop

save

เสร็จแล้วเราจะได้ icon บนหน้า desktop ดังภาพ

icon

เมื่อไหร่ก็ตามที่ windows แจ้งเตือนให้ restart คอมพิวเตอร์ซึ่งคุณไม่ต้องการ restart ในทันที และไม่ต้องการให้มันแจ้งคุณไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะ restart คุณก็สามารถ double-clicked ที่ icon ที่เราพึ่งสร้างขึ้นมานี้ แล้วค่อยทำการ reboot เครื่องใหม่ในภายหลังเมื่อต้องการ…….มารู้จัก cpu ตัวใหม่กันเถิด intel xeon 5500 series (nehalem)

บทความโดย 2beshop.com

โหลดเพลงจาก itune radio ง่ายนิดเดียว

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราไม่สนับสนุนให้คุณละเมิดลิขสิทธิเพลงในทุกกรณี เราเพียงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ของคุณ และเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากขึ้นเท่านั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงการโหลดเพลงจาก iTunes radio หรือช่องวิทยุออนไลน์บน iTunes นั่นเอง โดยปกติแล้วเราจะใช้ iTunes คู่กับ iPod หรือ iPhone แต่ถึงแม้ว่าคุณไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว ก็สามารถดาวโหลด iTunes มาใช้ได้ฟรีอยู่ครับ คุณสามารถคลิ๊กที่นี่เพื่อดาวโหลด เมื่อดาวโหลด iTunes และทำการ install โปรแกรมเสร็จแล้วให้เปิด iTunes ขึ้นมาและไปที่ radio ดังภาพ โดยปกติแล้วคุณจะไม่สามารถดาวโหลด หรือ save ไฟล์เสียงจาก iTunes radio ได้ เวลาที่มันทำงานจะมีการดาวโหลด stream buffer มาเล่นที่เครื่องคุณแบบสด ๆ ทำให้ไม่สามารถหาที่เก็บ buffer หรือ ทำการ save ตัว live stream ที่ส่งมายังเครื่องคุณได้ stationripper เป็น freeware ที่เราจะนำมาใช้สำหรับการทำงานนี้ เมื่อคุณดาวโหลดโปรแกรมและทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้คุณเปิดทั้ง iTunes และ stationripper ขึ้นมาพร้อม [...]

ก่อน อื่นต้องขอบอกว่าเราไม่สนับสนุนให้คุณละเมิดลิขสิทธิเพลงในทุกกรณี เราเพียงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ของคุณ และเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากขึ้นเท่านั้น

วันนี้เราจะมาพูดถึงการโหลดเพลงจาก itunes radio หรือช่องวิทยุออนไลน์บน itunes นั่นเอง โดยปกติแล้วเราจะใช้ itunes คู่กับ ipod หรือ iphone แต่ถึงแม้ว่าคุณไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว ก็สามารถดาวโหลด itunes มาใช้ได้ฟรีอยู่ครับ คุณสามารถคลิ๊กที่นี่เพื่อดาวโหลด

เมื่อดาวโหลด itunes และทำการ install โปรแกรมเสร็จแล้วให้เปิด itunes ขึ้นมาและไปที่ radio ดังภาพ

itunes

โดยปกติแล้วคุณจะไม่สามารถดาวโหลด หรือ save ไฟล์เสียงจาก itunes radio ได้ เวลาที่มันทำงานจะมีการดาวโหลด stream buffer มาเล่นที่เครื่องคุณแบบสด ๆ ทำให้ไม่สามารถหาที่เก็บ buffer หรือ ทำการ save ตัว live stream ที่ส่งมายังเครื่องคุณได้

stationripper เป็น freeware ที่เราจะนำมาใช้สำหรับการทำงานนี้

stationripper-site

เมื่อคุณดาวโหลดโปรแกรมและทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้คุณเปิดทั้ง itunes และ stationripper ขึ้นมาพร้อม ๆ กัน จากนั้นให้คุณเลือกช่องวิทยุที่ต้องการโหลดมาจากหน้า itunes radio ให้ทำการลาก-วาง (drag-drop) ที่ช่องวิทยุที่ต้องการแล้วนำมาวางไว้ที่ stationripper ดังรูป

drag-drop

จากนั้นให้คลิ๊กขวาที่ชื่อช่องวิทยุบน stationripper ที่เราพึ่งลากมาวางแล้วเลือก start (ในกรณีที่มันไม่ยอมโหลดเองโดยอัตโนมัติ) ในขณะที่คุณโหลดตัวไฟล์เพลงมา คุณก็สามารถฟังเพลงจากวิทยุออนไลน์นั้นไปพลาง ๆ ได้ด้วยโดยคลิ๊กที่ปุ่ม “listen” ที่ข้างล่างซ้าย

เมื่อเสร็จแล้วไฟล์จะไปอยู่ที่ c:program files atajik softwarestationripperoutput

ในกรณีที่คุณติดตั้งโปรแกรมไว้ที่ c:program files

อย่าไรก็ตาม เราขอย้ำว่าเราไม่สนับสนุนให้มีการละเมิดลิขสิทธิเพลงในทุกกรณีนะครับ…เรียนรู้ไว้ประดับสมองตามประสาคน it ครับ

บทความโดย 2beshop.com
ผู้จำหน่ายสินค้า hp และ storage

จำกัดการเข้าเว็บไซด์ของเครื่อง PC ด้วย Privoxy

วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการใช้งาน internet ของ user ทุกคนที่อยู่ใน network เดียวกันนั้นคือการจำกัดเว็บไซด์ต่าง ๆ ในการใช้งาน พูดง่าย ๆ คือเราระบุเว็บไซด์ที่ user ใน network ของเราสามารถ หรือไม่สามารถเข้าไปดูเว็บไซด์ได้ นั่นเอง… เพื่อให้การเริ่มต้นทำงานดังกล่าวเราจะใช้ Privoxy ซึ่งเป็น opensource ที่คุณสามารถดาวโหลดมาใช้ได้ฟรี อย่างไรก็ตามคงต้องบอกว่าไม่มีโปรแกรมตัวไหนที่สามารถทำงานได้ร้อยเปอร์ เซนต์ แต่โปรแกรมตัวนี้ก็ใช้งานได้ดีทีเดียว ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้งานจำกัดการเข้าเว็บไซด์ภายในออฟฟิศของคุณได้ เพื่อป้องกันพนักงานเข้าเว็บไซด์ที่ไม่เกี่ยวกับงาน Privoxy เป็น open source ประเภท proxy server ที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการใช้งาน internet ของ user ได้ ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถ run ได้บนระบบปฏิบัติการหลายระบบด้วยกัน เมื่อเข้าไปที่เว็บไซด์ของ Privoxy แล้วให้คลิ๊กที่ link ที่เขียนว่า “Download recent releases” จากนั้นคุณจะไปอยู่ที่หน้าดาวโหลด สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ให้ทำการดาวโหลดตัวที่เขียนว่า Win32 หลังจาก download มาแล้วให้ทำการลงโปรแกรมตามปกติ โดยคลิ๊กที่ [...]

วิธี ที่ดีที่สุดในการควบคุมการใช้งาน internet ของ user ทุกคนที่อยู่ใน network เดียวกันนั้นคือการจำกัดเว็บไซด์ต่าง ๆ ในการใช้งาน พูดง่าย ๆ คือเราระบุเว็บไซด์ที่ user ใน network ของเราสามารถ หรือไม่สามารถเข้าไปดูเว็บไซด์ได้ นั่นเอง…

เพื่อให้การเริ่มต้นทำงานดังกล่าวเราจะใช้ privoxy ซึ่งเป็น opensource ที่คุณสามารถดาวโหลดมาใช้ได้ฟรี อย่างไรก็ตามคงต้องบอกว่าไม่มีโปรแกรมตัวไหนที่สามารถทำงานได้ร้อยเปอร์ เซนต์ แต่โปรแกรมตัวนี้ก็ใช้งานได้ดีทีเดียว ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้งานจำกัดการเข้าเว็บไซด์ภายในออฟฟิศของคุณได้ เพื่อป้องกันพนักงานเข้าเว็บไซด์ที่ไม่เกี่ยวกับงาน

privoxy เป็น open source ประเภท proxy server ที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการใช้งาน internet ของ user ได้ ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถ run ได้บนระบบปฏิบัติการหลายระบบด้วยกัน

เมื่อเข้าไปที่เว็บไซด์ของ privoxy แล้วให้คลิ๊กที่ link ที่เขียนว่า “download recent releases” จากนั้นคุณจะไปอยู่ที่หน้าดาวโหลด สำหรับระบบปฏิบัติการ windows ให้ทำการดาวโหลดตัวที่เขียนว่า win32

หลังจาก download มาแล้วให้ทำการลงโปรแกรมตามปกติ โดยคลิ๊กที่ setup หรือ installer ที่ได้ดาวโหลดมา

setting

จากให้คลิ๊กที่คำว่า “run”

run

จากนั้นให้กด next ไปเรื่อย ๆ อย่าลืมทำการเลือก path ในการลงโปรแกรมให้เหมาะสมตามความต้องการ

finish

ในส่วนการลงโปรแกรมคิดว่าท่านผู้อ่านส่วนใหญ่คงรู้กันอยู่แล้ว เนื่องจากไม่มีความแตกต่างจากการลงโปรแกรมตัวอื่นๆ แต่อย่างใด ดังนั้นเรามาเริ่มขึ้นตอนการใช้งานเจ้าโปรแกรมตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาให้ไปที่ options –> edit main configuration

edit-main-configuration

เมื่อคลิ๊กที่ edit main configuration เรียบร้อยแล้ว privoxy จะเปิด notepad ที่เป็นไฟล์ configuration ขึ้นมา

configue-notepad

จากนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือการเปลี่ยนค่าของ trustfile โดยให้ทำการ scroll down ลงมาตรงจุดที่เขียนว่า 2.7. trustfile และต่ำกว่านั้นลงมาคุณจะเห็นประโยคที่เขียนว่า #trustfile trust.txt ให้ลบเครื่องหมาย # ข้างหน้าออกแล้วทำการ save

delete-sign

จากนั้นให้ไปตรงที่เขียนว่า 4.1. listen-address แล้วให้ scroll down ลงมาจะเห็นตรงที่เขียนว่า listen address

ip-address

คุณจะเห็น 127.0.0.1:8118 ซึ่งเป็น ip address และ port ที่โปรแกรม privoxy จะคอยเฝ้าดู traffic จากการใช้งาน internet ถ้าคุณใช้งาน internet ที่บ้านให้คุณปล่อยเลขนี้ไว้แบบนี้ได้เลย แต่ถ้าคุณใช้ในที่ทำงานคุณจะต้องเปลี่ยนค่าของตัวเลขนี้ตามค่าของ server หรือพูดง่าย ๆ คือเปลี่ยนค่า ip และ port ให้ถูกต้อง หลังจากที่คุณตั้งค่า ip address และค่า port แล้วให้ทำการ save

จากนั้นก็มาถึงขึ้นตอนสุดท้ายคือการทำ trust list หรือรายการเว็บไซด์ที่อนุญาติให้สามารถเข้าชมได้

ให้คุณไปที่ start –> programs –> privoxy –> edit config –> trust list

trustlist

เมื่อเปิด trust list ขึ้นมาแล้วให้ไปยังบรรทัดที่เขียนว่า ~config.privoxy.org ซึ่งนี่จะเป็นจุดที่คุณสามารถทำการเพิ่มเว็บไซด์ที่อนุญาติให้เข้าชมได้ ถ้าคุณใส่เครื่องหมาย ~ หน้า domain name ตัวใด ๆ privoxy ก็จะัอนุญาติให้สามารถเข้าสู่ domain นั้นได้อันเดียว แต่ถ้าคุณใส่เครื่องหมาย + ที่หน้า domain ใด ๆ privoxy ก็จะอนุญาติให้เข้าสู่ domain นั้นและ domain อื่น ๆ ที่ domain นั้นอ้างอิงถึงได้

privoxy-config-list

ยกตัวอย่างเช่น

+msn.com ก็จะทำให้คุณสามารถเข้า msn.com และเว็บไซด์อื่นๆ ที่เว็บไซด์นี้ link ไปหา
~2beshop.com ก็จะทำให้คุณสามารถเข้า 2beshop.com เว็บเดียวเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปยังเว็บไซด์ที่ link ไปหาได้

ถ้าอยากจะทำงานให้มีประสิทธิภาพซักหน่อยคุณสามารถเพิ่มลูกเล่นเข้าไปได้ เนื่องจากหลาย ๆ เว็บไซด์มีการใช้ subdomain ยกตัวอย่าง 2beshop.com ที่มี subdomain คือ comtips.2beshop.com ดังนั้นถ้าคุณเขียนว่า

+*.2beshop.com ก็จะอนุญาติให้คุณเข้าถึง subdomain ของ 2beshop.com ได้ เนื่องจากเครื่องหมาย * หมายถึง wildcard นั่นเอง

ลองไปทำเล่นดูนะครับ เริ่มต้นด้วยการตั้งค่า trust site ที่บ้านของคุณเองเพื่อไม่ให้ลูก ๆ ของคุณแอบไปดูเว็บไซด์ที่ไม่เหมาะสมก็ได้ครับ

บทความโดย 2beshop.com

แชร์ไฟล์ให้เพื่อนของคุณผ่าน GMail

หยุดก่อน! หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าบทความนี้คือการแนบไฟล์ผ่านอีเมลย์ แต่ผิดถนัดเพราะว่าบทความนี้เกี่ยวกับการเปิดการใช้งานแชร์ไฟล์จาก PC เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง อันที่จริงแล้วมีโปรแกรมหลายตัวที่สามารถนำมาใช้งานเพื่อการแชร์ไฟล์ได้ ซึ่งการทำงานโดยหลัก ๆ คือโปรแกรมจะต้องสร้าง VPN connection ระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่องขึ้นมาจึงจะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ แต่จะทำอย่างไรถ้าเราต้องการที่จะแชร์ไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องโดยไม่ต้องสร้าง VPN connection? g2Peer เป็นโปรแกรมที่ใช้งานบน Windows ซึ่งทำงานผ่าน GMail อีกที ถ้าจะใช้โปรแกรมตัวนี้คุณต้องเข้าไปยัง GMail จึงจะใช้ได้ และเพื่อนของคุณก็ต้องใช้ GMail ด้วยเช่นกันการแชร์ไฟล์จึงจะสามารถทำได้ ที่สำคัุญเราไม่ต้องสร้าง VPN connection ให้ยุ่งยากอีกต่อไป ก่อนอื่นหากคุณยังไม่มี account บน GMail ให้ไปที่ http://mail.google.com แล้วทำการ สร้าง account ใหม่ขึ้นมา ถ้ามี account กับ GMail เรียบร้อยแล้วคุณก็พร้อมที่จะใช้งาน g2Peer คลิ๊กที่นี่เพื่อดาวโหลดฟรี! เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการ install โปรแกรมไปตามปกติ เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาในครั้งแรก g2Peer จะให้คุณกรอกข้อมูล GMail Login เพื่อเชื่อมโปรแกรมเข้ากับ account [...]

หยุด ก่อน! หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าบทความนี้คือการแนบไฟล์ผ่านอีเมลย์ แต่ผิดถนัดเพราะว่าบทความนี้เกี่ยวกับการเปิดการใช้งานแชร์ไฟล์จาก pc เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง อันที่จริงแล้วมีโปรแกรมหลายตัวที่สามารถนำมาใช้งานเพื่อการแชร์ไฟล์ได้ ซึ่งการทำงานโดยหลัก ๆ คือโปรแกรมจะต้องสร้าง vpn connection ระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่องขึ้นมาจึงจะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ แต่จะทำอย่างไรถ้าเราต้องการที่จะแชร์ไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องโดยไม่ต้องสร้าง vpn connection?

g2peer เป็นโปรแกรมที่ใช้งานบน windows ซึ่งทำงานผ่าน gmail อีกที ถ้าจะใช้โปรแกรมตัวนี้คุณต้องเข้าไปยัง gmail จึงจะใช้ได้ และเพื่อนของคุณก็ต้องใช้ gmail ด้วยเช่นกันการแชร์ไฟล์จึงจะสามารถทำได้ ที่สำคัุญเราไม่ต้องสร้าง vpn connection ให้ยุ่งยากอีกต่อไป

ก่อนอื่นหากคุณยังไม่มี account บน gmail ให้ไปที่ http://mail.google.com แล้วทำการ สร้าง account ใหม่ขึ้นมา

gmail-login

ถ้ามี account กับ gmail เรียบร้อยแล้วคุณก็พร้อมที่จะใช้งาน g2peer คลิ๊กที่นี่เพื่อดาวโหลดฟรี!


download-g2peer

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการ install โปรแกรมไปตามปกติ

install2

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาในครั้งแรก g2peer จะให้คุณกรอกข้อมูล gmail login เพื่อเชื่อมโปรแกรมเข้ากับ account gmail ของคุณ

first-time-login

เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมใช้งานแล้วครับ ถ้าต้องการเริ่มแชร์ไฟล์กับเพื่อนก็ให้ไปออนไลน์โปรแกรมดังภาพ

online

จากนั้นให้ add เพื่อนของคุณเข้าไปในโปรแกรม โดยเพื่อนของคุณจะต้องใช้งาน g2peer อยู่ก่อนนะครับ

share

จากนั้นหน้าต่างที่ใช้เพิ่มเพื่อนของคุณก็จะขึ้นมา

add-user

เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมจะแชร์ไฟล์ระหว่างคุณกับเพื่อนแล้วล่ะครับ เพียงแค่คุณกับเพื่อนทำการ online โปรแกรม g2peer ก็จะสามารถแชร์ไฟล์ได้ทันทีครับ

บทความโดย 2beshop.com

หยุดเวลา trial time limit บน Software

เรารู้ว่าคุณเคยดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้ คุณคงเคยมีประสบการณ์ที่ดาวน์โหลดโปรแกรมบางอย่างมาใช้บนเครื่อง แล้วโปรแกรมตัวนี้มีเวลาให้ทดลองใช้ เช่น 15 วันเป็นต้น หลังจากนั้นโปรแกรมก็จะใช้งานไม่ได้ เมื่อหมดเวลาทดลองใช้ถ้าคุณเปิดโปรแกรมขึ้นมา มันจะฟ้องว่าหมดเวลาทดลองใช้แล้ว และให้คุณไปซื้อ license โปรแกรมตัวนั้นมาเพื่อเปิดการใช้งานโปรแกรม timestopper เป็นโปรแกรม Freeware ที่สามารถนำมาหยุดเวลาของโปรแกรมที่กำหนดเวลาทดลองใช้มาด้วย(งงมั้ยครับ?) พูดง่าย ๆ ก็คือโปรแกรมตัวนี้สามารถทำให้คุณใช้งานโปรแกรมที่ต้องการต่อได้ แม้ว่าเวลาทดลองใช้จะหมดไปแล้วก็ตาม เมื่อทำการดาวน์โหลด timestopper มาเรียบร้อยแล้วจะได้ zip ไฟล์มาให้ำทำ extract ไฟล์นี้ แล้ว run ตัว setup คุณสามารถอ่านคู่มือการใช้โปรแกรมตัวนี้ได้โดยคลิ๊กที่นี่ จากรูปข้างบนจะเห็นว่าคุณสามารถ browse เพื่อหาไฟล์ exe ที่ใช้ run โปรแกรมที่คุณต้องการจะหยุดเวลาทดลองใช้งาน ซึ่งคุณสามารถตั้งเวลาให้กับโปรแกรมใหม่ได้ ทำให้เวลาทดลองการใช้งานไม่หมดไปตามที่ควรจะเป็น บทความโดย 2beshop.com

เรา รู้ว่าคุณเคยดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้ คุณคงเคยมีประสบการณ์ที่ดาวน์โหลดโปรแกรมบางอย่างมาใช้บนเครื่อง แล้วโปรแกรมตัวนี้มีเวลาให้ทดลองใช้ เช่น 15 วันเป็นต้น หลังจากนั้นโปรแกรมก็จะใช้งานไม่ได้ เมื่อหมดเวลาทดลองใช้ถ้าคุณเปิดโปรแกรมขึ้นมา มันจะฟ้องว่าหมดเวลาทดลองใช้แล้ว และให้คุณไปซื้อ license โปรแกรมตัวนั้นมาเพื่อเปิดการใช้งานโปรแกรม

timestopper เป็นโปรแกรม freeware ที่สามารถนำมาหยุดเวลาของโปรแกรมที่กำหนดเวลาทดลองใช้มาด้วย(งงมั้ยครับ?) พูดง่าย ๆ ก็คือโปรแกรมตัวนี้สามารถทำให้คุณใช้งานโปรแกรมที่ต้องการต่อได้ แม้ว่าเวลาทดลองใช้จะหมดไปแล้วก็ตาม

เมื่อทำการดาวน์โหลด timestopper มาเรียบร้อยแล้วจะได้ zip ไฟล์มาให้ำทำ extract ไฟล์นี้ แล้ว run ตัว setup

timestopper

คุณสามารถอ่านคู่มือการใช้โปรแกรมตัวนี้ได้โดยคลิ๊กที่นี่

program

จากรูปข้างบนจะเห็นว่าคุณสามารถ browse เพื่อหาไฟล์ exe ที่ใช้ run โปรแกรมที่คุณต้องการจะหยุดเวลาทดลองใช้งาน ซึ่งคุณสามารถตั้งเวลาให้กับโปรแกรมใหม่ได้ ทำให้เวลาทดลองการใช้งานไม่หมดไปตามที่ควรจะเป็น

บทความโดย 2beshop.com

เก็บภาพจาก Google map ง่ายนิ๊ดเดียว!

สมัยนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Google map คือช่องทางอีกช่องทางหนึ่งที่เรานำภาพแผนที่มาใช้ประกอบเว็บไซด์ของบริษัท เรา หรือใช้ประกอบบนโบรชัวร์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้า หรือผู้สนใจสามารถหาสถานที่ตั้งของธุรกิจเราได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบ ๆ กันว่า Google map ไม่มี print option ดังนั้นการจะ print แผนที่ออกมานั้นคุณจะต้องทำการ PrtSc แล้วไป paste ภาพไว้ที่ Adobe Photoshop หรือ Paint Brush แล้วค่อยตัดต่อ ตกแต่ง และ save ภาพออกมา ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่สะดวกสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย และไม่ค่อยได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทำงานแบบนี้ วันนี้จึงจะมาแนะนำโปรแกรมตัวหนึ่งที่สามารถใช้งานในการเก็บภาพที่ได้จาก Google map ได้อย่างง่ายดาย Google Map Buddy เป็นโปรแกรมที่ทำงานบน Windows ที่ช่วยให้คุณสามารถ download บางส่วนของแผนที่บน Google map ออกมาแล้วทำการ save ข้อมูลเก็บไว้ได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่เปิดโปรแกรมตัวนี้ขึ้นมา เลือกพื้นที่ที่ต้องการจากนั้นก็ทำการ download เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย หลังจากดาวน์โหลดไฟล์มาเรียบร้อยแล้วคุณจะได้ไฟล์ zip มาดังรูป [...]

สมัย นี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า google map คือช่องทางอีกช่องทางหนึ่งที่เรานำภาพแผนที่มาใช้ประกอบเว็บไซด์ของบริษัท เรา หรือใช้ประกอบบนโบรชัวร์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้า หรือผู้สนใจสามารถหาสถานที่ตั้งของธุรกิจเราได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบ ๆ กันว่า google map ไม่มี print option ดังนั้นการจะ print แผนที่ออกมานั้นคุณจะต้องทำการ prtsc แล้วไป paste ภาพไว้ที่ adobe photoshop หรือ paint brush แล้วค่อยตัดต่อ ตกแต่ง และ save ภาพออกมา

ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่สะดวกสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย และไม่ค่อยได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทำงานแบบนี้ วันนี้จึงจะมาแนะนำโปรแกรมตัวหนึ่งที่สามารถใช้งานในการเก็บภาพที่ได้จาก google map ได้อย่างง่ายดาย

google map buddy เป็นโปรแกรมที่ทำงานบน windows ที่ช่วยให้คุณสามารถ download บางส่วนของแผนที่บน google map ออกมาแล้วทำการ save ข้อมูลเก็บไว้ได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่เปิดโปรแกรมตัวนี้ขึ้นมา เลือกพื้นที่ที่ต้องการจากนั้นก็ทำการ download เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

googlemapbuddy-site

หลังจากดาวน์โหลดไฟล์มาเรียบร้อยแล้วคุณจะได้ไฟล์ zip มาดังรูป ให้เปิดไฟล์ zip ขึ้นมาดังรูป

exe_file

เมื่อคลิ๊กที่ไฟล์ .exe ดังรูปข้างบนแล้วโปรแกรมจะเปิดขึ้นมาดังรูป โปรดสังเกตุว่าเพียงเราเรียกไฟล์ .exe ขึ้นมาก็สามารถใช้งานได้ทันที นั่นหมวยความว่าโปรแกรมนี้มีความสามารถแบบ portable คุณจึงสามารถนำโปรแกรมนี้ลง thumbdrive ไปใช้ในที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้อง install โปรแกรมก่อนใ้ช้งาน

opentheprogram

ให้คลิ๊กที่ปุ่ม go to google map โปรแกรมจะเปิด url ขึ้นมาให้คลิ๊กที่ปุ่ม go อีกทีหนึ่ง จากนั้น google map จะปรากฏขึ้นมา แล้วคุณทำการค้นหาสถานที่ตามปกติ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้คลิ๊กที่ปุ่ม “select area” จากนั้นคุณจะสามารถลากพื้นที่ ๆ ต้องการ save ได้

selectarea

จากนั้นให้คลิ๊กปุ่ม “create map image” โปรแกรมก็จะสร้างภาพตามที่คุณได้ทำการลากพื้นที่ ๆ ต้องการไว้ในขั้นตอนที่แล้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะได้พื้นที่ ๆ ต้องการเป็นออกมาเป็นไฟล์ภาพ เพื่อนำไปใช้บนเว็บไซด์ หรือโบรชัวร์ได้แล้วครับ

บทความโดย 2beshop.com

download หนังจาก youtube มาดูกันดีกว่า

หลาย ๆ คนคงเคยคิดว่า ทำยังไงน้อเราจะได้ไฟล์วีดีโอที่อยู่บน youtube มาเก็บไว้ ไม่ใช่แค่ youtube เท่านั้นแต่วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดาวโหลดไฟล์วีดีโอที่เป็น .flv หรือไฟล์ flash จากเว็บไซด์แบบ youtube มาเก็บไว้ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ… โปรแกรมที่เราจะใช้ก็คือ Orbit ซึ่งเป็น Freeware ที่มีความสามารถในการมอง link เพื่อดาวโหลดข้อมูลจากเว็บไซด์ที่ซ่อนไฟล์ไว้ซึ่งปกติจะดาวโหลดมาไม่ได้ แต่ Orbit ทำได้ในทีนี้ยังรวมไปถึงการดาวโหลดไฟล์เพลงจากเว็บอย่าง ijigg ได้อีกด้วย เมื่อดาวโหลดมาแล้วให้ทำการ install โปรแกรมตามปกติหลังจากนั้นเมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะเห็นดังภาพข้างล่าง จากนั้นให้ไปที่ tool –> grab++ ดังภาพ โปรแกรมจะเปิดโปรแกรมย่อย ที่ซ้อนอยู่ใน Orbit ชื่อ Grab++ ขึ้นมาซึ่งเป็นตัวทำหน้าที่ในการตรวจหา link ดาวโหลดจากเว็บต่าง ๆ ซ่อนตัว Orbit จะทำการดาวโหลดต่อจากนั้นอีกที เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วจะได้ Grab++ หน้าตาเหมือนภาพข้างล่างนี้ จากนั้นเราก็พร้อมแล้วที่จะเลือกหนังต่าง ๆ บน youtube (หรือเว็บอะไรก็แล้วแต่) มาเก็บไว้บนเครื่องของเรา ให้เราไปที่ youtube แล้วเลือกหนังขึ้นมาดูดังภาพ เมื่อมีการเล่นไฟล์ที่เป็น [...]

flash-icon

หลาย ๆ คนคงเคยคิดว่า ทำยังไงน้อเราจะได้ไฟล์วีดีโอที่อยู่บน youtube มาเก็บไว้ ไม่ใช่แค่ youtube เท่านั้นแต่วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดาวโหลดไฟล์วีดีโอที่เป็น .flv หรือไฟล์ flash จากเว็บไซด์แบบ youtube มาเก็บไว้ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ…

โปรแกรมที่เราจะใช้ก็คือ orbit ซึ่งเป็น freeware ที่มีความสามารถในการมอง link เพื่อดาวโหลดข้อมูลจากเว็บไซด์ที่ซ่อนไฟล์ไว้ซึ่งปกติจะดาวโหลดมาไม่ได้ แต่ orbit ทำได้ในทีนี้ยังรวมไปถึงการดาวโหลดไฟล์เพลงจากเว็บอย่าง ijigg ได้อีกด้วย

เมื่อดาวโหลดมาแล้วให้ทำการ install โปรแกรมตามปกติหลังจากนั้นเมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะเห็นดังภาพข้างล่าง

orbit

จากนั้นให้ไปที่ tool –> grab++ ดังภาพ

tool-grab

โปรแกรมจะเปิดโปรแกรมย่อย ที่ซ้อนอยู่ใน orbit ชื่อ grab++ ขึ้นมาซึ่งเป็นตัวทำหน้าที่ในการตรวจหา link ดาวโหลดจากเว็บต่าง ๆ ซ่อนตัว orbit จะทำการดาวโหลดต่อจากนั้นอีกที เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วจะได้ grab++ หน้าตาเหมือนภาพข้างล่างนี้

grab

จากนั้นเราก็พร้อมแล้วที่จะเลือกหนังต่าง ๆ บน youtube (หรือเว็บอะไรก็แล้วแต่) มาเก็บไว้บนเครื่องของเรา ให้เราไปที่ youtube แล้วเลือกหนังขึ้นมาดูดังภาพ

russell

เมื่อมีการเล่นไฟล์ที่เป็น .flv ตัวโปรแกรมย่อยม grab++ จะทำการตรวจจับ link ของที่มาทันที

choose-file

ให้เราเลือกไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .flv เพราะนั่นคือไฟล์ที่เราต้องการ

จากนั้นให้เราคลิ๊กที่ปุ่มคำว่า “download” ทางขวาล่างของ grab++ โปรแกรม orbit จะดำเนินการดาวโหลดไฟล์ที่เราเลือกจาก grab++
ทันที เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไฟล์มาเก็บไว้บนเครื่องแล้วล่ะครับ

ก่อนจะจบบทความนี้ มีอีกเล็กน้อยที่คุณต้องรู้ นั่นคือไฟล์ที่ทำการดาวโหลดมาเป็น .flv ดังนั้นการจะดูหนังที่มีไฟล์ประเภทแบบนี้ก็จะต้องใช้ flv player ในการดู ซึ่งคุณสามารถดาวโหลดได้โดยคลิ๊กที่นี่ฟรี

flv-player

บทความโดย 2beshop.com

มาใช้ Twitter + Facebook บน Desktop กันเถอะ

คุณใช้ Twitter รึเปล่าครับ Twitter เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการโปรโมทตัวคุณเอง หรือธุรกิจของคุณ ซึ่งคนที่สนใจในตัวคุณสามารถ add และกลายมาเป็น follower ของคุณได้ โดยภาพรวมแล้ว Twitter เหมือนการเขียน Blog แต่เป็นการเขียนที่เราเรียกว่า Micro Blogging โดยจะเป็นการเขียนข้อความสั้น ๆ ไม่ยาวเหมือนเขียน Blog ทั่วไปนั่นเอง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง เราจะเห็นเว็บไซด์ Twitter.com มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นด้าน web-based หรือ desktop-based รวมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากมายยิ่งขึ้น ส่วน Facebook นั้นคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเป็นโปรแกรม Social Network อีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในโลกขณะนี้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรมอีกตัวหนึ่งที่ทำใ้ห้คุณสามารถใช้งาน Twitter และ Facebook บน Desktop ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น Seesmic เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก จึงไม่เปลืองเนื้อที่คอมพิวเตอร์ของคุณ และสามารถทำงานได้บนหลาย platform เพราะใช้ Adobe AIR จึงสามารถ run ได้ทั้งบน Linux, Windows และ [...]

คุณ ใช้ twitter รึเปล่าครับ twitter เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการโปรโมทตัวคุณเอง หรือธุรกิจของคุณ ซึ่งคนที่สนใจในตัวคุณสามารถ add และกลายมาเป็น follower ของคุณได้ โดยภาพรวมแล้ว twitter เหมือนการเขียน blog แต่เป็นการเขียนที่เราเรียกว่า micro blogging โดยจะเป็นการเขียนข้อความสั้น ๆ ไม่ยาวเหมือนเขียน blog ทั่วไปนั่นเอง

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง เราจะเห็นเว็บไซด์ twitter.com มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นด้าน web-based หรือ desktop-based รวมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากมายยิ่งขึ้น

ส่วน facebook นั้นคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเป็นโปรแกรม social network อีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในโลกขณะนี้

ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรมอีกตัวหนึ่งที่ทำใ้ห้คุณสามารถใช้งาน twitter และ facebook บน desktop ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

seemics-logo

seesmic เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก จึงไม่เปลืองเนื้อที่คอมพิวเตอร์ของคุณ และสามารถทำงานได้บนหลาย platform เพราะใช้ adobe air จึงสามารถ run ได้ทั้งบน linux, windows และ mac os

โดยโปรแกรมตัวนี้มีความสามารถในการใช้งาน twitter ได้ทีเดียวหลาย ๆ account รวมทั้งใช้งาน facebook ไปพร้อม ๆ กันได้ด้วยซึ่งสามารถนำมาแสดงผลพร้อมกันในหน้าต่างเดียวบนโปรแกรม

install-button

เพื่อเริ่มต้นทำการดาวน์โหลดและลงโปรแกรมให้คุณคลิ๊กที่ปุ่มที่เขียนว่า “install seesmic desktop” แต่ถ้าหากว่าคุณยังไม่ได้ลง adobe air ให้คลิ๊กที่ text link ใต้ปุ่ม install ที่เขียนว่า adobe air

adobe-air

เมื่อแน่ใจว่าได้ลง adobe air เรียบร้อยแล้วให้กลับไปที่หน้า seesmic แล้วคลิ๊กปุ่ม install จะปรากฏหน้าต่างดังภาพขึ้นมาให้คลิ๊กที่ save

application-install

save-app

เสร็จแล้วจะได้ตัว installer มาดังภาพ

installer

ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กเพื่อเริ่มต้นการลงโปรแกรม

installation-start

เมื่อปรากฏหน้าต่างดังรูปข้างบนขึ้นมาให้คลิ๊ก “install” ขั้นตอนการลงโปรแกรมก็เป็นอันเรียบร้อย

ครั้งแรกที่เปิดโปรแกรมขึ้นมาคุณจะต้องกรอกรายละเอียด account ของ twitter และ facebook ของคุณซะก่อน

accountsw

เมื่อ add account เป็นที่เรียบร้อยแล้วโปรแกรมจะทำการ syncronise ข้อมูลบน twitter และ facebook ของคุณ อย่าลืมว่าคุณสามารถเพิ่ม account ได้ไม่จำกัดไม่ว่าคุณมี twitter หรือ facebook กี่ account ก็สามารถใส่ไปได้เลยครับ

insidetheprogram

บทความโดย 2beshop.com

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แก้ไขปัญหา NTLDR is missing

ไฟล์ NTLDR หรือชื่อเต็มๆว่า NT Loader นั้นเป็นไฟล์ที่จำเป็นต้องใช้ในขั้นตอนของการ Boot เข้าระบบ Windows ซึ่งไฟล์นี้จะไม่มีนามสกุลนะครับไม่ต้องตกใจว่านามสกุลมันหายไปไหน โดยไฟล์ NTLDR นี้จะอยู่ใน Root ของ Drive ที่มีการลงระบบปฎิบัติการไว้(โดยมากจะเป็น Drive C) ดังนั้นเมื่อไฟล์ NTLDR หายไปเราจะไม่สามารถที่จะ Boot เข้าระบบได้เลยครับ ซึ่งสาเหตุของการหายนั้นบางครั้งก็เกิดจากตัวไวรัส หรือบางครั้งก็เป็นปัญหาของตัว Windows เองที่ทำให้หายไป แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ถ้าไฟล์นี้หายไปเมื่อเราเปิดเครื่องขึ้น มามันจะขึ้นเป็นหน้าจอดำๆว่า NTLDR is missing พร้อมกับ Cursor กระพริบๆ


วิธีการแก้ไขก็ตรงไปตรงมาครับ มันหายไปก็เอาไปใส่คืนให้สิ แต่จะใส่ยังไงล่ะในเมื่อเข้า Windows ก็ไม่ได้ สำหรับการแก้ไขนั้นผมขอแบ่งเป็น 2 กรณีนะครับ
กรณีแรกคือเครื่องที่มีปัญหามี Floppy Disk หรือที่มักเรียกกันว่า Drive A นั่นล่ะครับ สำหรับในกรณีนี้ให้เราโหลดโปรแกรม DKDC_Boot แล้ว นำแผ่น Disk ที่มีการ Format เรียบร้อยแล้วใส่เข้าไปใน Drive A แล้วเรียกโปรแกรม DKDC_Boot ขึ้นมา ในระหว่างนั้นจะมีหน้าจอ Dos ดำๆขึ้นมา เมื่อหน้าต่าง Dos ดำๆนั้นหายไปก็แสดงว่าเสร็จขั้นตอนในการสร้างแผ่น Boot ของเราแล้วล่ะครับ


ให้เรานำแผ่น Boot ที่ได้นี้ไปในใส่ใน Drive A ของเครื่องที่มีปัญหาแล้วเปิดเครื่องตามปกติ ที่สำคัญคืออย่าลืมตั้งค่าใน Bios ให้ Boot จาก Floppy Disk ด้วยนะครับ
จะเห็นว่ามีการเข้า Windows ได้ตามปกติแล้วล่ะครับ แต่ตอนนี้ Windows มันยังอ่านไฟล์ NTLDR จาก Drive A อยู่นะครับ ดังนั้นให้เราทำการ Copy ไฟล์ NTLDR จาก Drive A ไป Paste ไว้ใน Drive C ของเราก่อนนะครับ คราวหน้ามันจะได้เข้า Windows ได้โดยไม่ต้องใช้แผ่น A หรือใครจะประยุกต์ไปใช้รักษาความปลอดภัยเครื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นมาเปิดก็ ได้นะครับ คือทิ้งไว้แบบนี้ล่ะถ้าไม่มีแผ่น Boot นี้ถึงใครเปิดเครื่องมาก็ใช้ไม่ได้เพราะติด NTLDR is missing นั่นเองครับถ้าจะเข้า Windows ได้ต้องใส่แผ่น A นี้เท่านั้น


สำหรับกรณีเครื่องรุ่นใหม่ๆหรือ Notebook ที่ไม่มี Floppy Disk นั้นโดยส่วนใหญ่แล้วใน Bios จะมีการเลือกให้ Boot จาก USB Drive ได้ ดังนั้นเราจะต้องทำการ Boot ด้วยแฟลชไดรฟ์แทนเพื่อจะแก้ปัญหานี้ได้ครับ เดี๋ยวเราจะมาสร้างแฟลชไดรฟ์ ซึ่งใช้ในการ Boot กันครับ ขั้นแรกให้โหลดไฟล์ Boot.zip แล้วทำการ Unzip ออกมาซึ่งจะเห็นว่ามีไฟล์ COMMAND.COM และ IO.SYS อยู่ในนั้นนะครับ ให้เก็บไว้ก่อนยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ครับ


ขั้นต่อมาให้โหลดไฟล์ SP27213.exe ซึ่งเป็นโปรแกรมในการ Format แฟลชไดรฟ์ให้ Boot ได้ของ HP ไปติดตั้งก่อนนะครับ โดยผมขอข้ามขั้นตอนของการติดตั้งไปนะครับเพราะไม่มีอะไรครับ Next กับ OK อย่างเดียว
เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยให้เราเรียก Shortcut ชื่อ HP USB Disk Storage Format Tool จากหน้า Desktop ขึ้นมา แต่ก่อนที่จะเรียกโปรแกรมนั้นให้เราเอาแฟลชไดรฟ์ ที่จะใช้ทำตัว Boot เสียบไว้ที่เครื่องก่อนนะครับ และที่สำคัญคือแฟลชไดรฟ์ นั้นควรจะมีการสำรองข้อมูลภายในไว้ก่อนนะครับเพราะจะต้องทำการ Format ซึ่งทำให้ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์นั้นๆหายไปทั้งหมดครับ


ในช่อง Device จะเป็นชื่อของตัวแฟลชไดรฟ์ ของเรา ซึ่งในจุดนี้กรณีที่มีการเสียบแฟลชไดรฟ์ ไว้หลายๆตัวให้ตรวจสอบให้ดีนะครับว่าเป็นตัวแฟลชไดรฟ์ที่เราต้องการ Format ถ้าผิดก็เลือกให้ถูกตัวนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยว Format ผิดตัวไปจะแย่นะครับ ในช่อง File system ให้เลือกเป็น FAT32 และในส่วนของ Volume label ก็แล้วแต่เราจะตั้งชื่อ Drive ล่ะครับใส่อะไรก็ได้ครับ

ต่อมาให้ทำเครื่องหมาย ถูกที่ช่องหน้า Quick Format เพื่อจะได้ไม่ต้องรอนานกรณีที่แฟลชไดรฟ์ เรามีความจุมากๆ และทำเครื่องหมายถูกที่หน้า Create a DOS startup disk ด้วยนะครับ ตรงนี้ล่ะจุดสำคัญที่จะทำให้แฟลชไดรฟ์ของเรา Boot ได้
หลังจากนั้นให้กด ปุ่ม ... ใต้ using DOS system files located at: แล้วเลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เราเก็บไฟล์ที่ได้มากจากการ Unzip ไฟล์ Boot.zip ที่โหลดมาในขั้นตอนแรกนั่นล่ะครับ โดยตามตัวอย่างผมเก็บไว้ที่ D:\\Boot ครับ


เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม Start เพื่อเริ่มกันเลยครับ โดยจะมีหน้าต่างเตือนว่าข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ นั้นๆจะสูญหายเพราะจะมีการ Format นะ ให้เราตรวจสอบอีกครั้งนะครับว่าชื่อของแฟลชไดรฟ์ที่มีการแจ้งว่าจะ Format นั้นถูกตัวแน่นอน ถ้าเราตรวจสอบแล้วมั่นใจว่าถูกต้องก็ให้ตอบ Yes เพื่อดำเนินการต่อไปครับ


เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีหน้าต่างรายงานผลการทำงานขึ้นมา


โดยถ้าเราเข้าไปดูในแฟลชไดรฟ์ ที่ทำการ Format ไปจะเห็นว่ามีไฟล์อยู่ภายใน 2 ไฟล์คือ COMMAND.COM และ IO.SYS หมายเหตุว่าเราต้องทำการเปิดแสดงไฟล์ซ่อนและไฟล์ระบบจากใน Folder Options ไว้ด้วยนะครับไม่งั้นจะมองไม่เห็น หลังจากนั้นให้เราเข้าไปที่ Drive C แล้วทำการ Copy ไฟล์ NTLDR และ NTDETECT.COM มา Paste ไว้ในแฟลชไดรฟ์ก่อนนะครับ

จากนั้นให้โหลดไฟล์ NTLDR_Fix.zip ซึ่งเมื่อทำการ Unzip ออกมาแล้วจะเห็นว่ามีไฟล์อยู่ 3 ไฟล์คือ Autoexec.bat, boot.ini และ bootpart.exe ให้ทำการก๊อบปี้ทั้ง 3 ไฟล์ที่ว่าใส่ลงไปในแฟลชไดรฟ์ด้วยนะครับ

เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะนำแฟลชไดรฟ์นี้ไปใช้บู๊ตเครื่องเพื่อแก้ไข ปัญหาได้แล้วล่ะครับ แต่เมื่อบู๊ตด้วยแฟลชไดรฟ์อันนี้นั้น ในครั้งแรกมันจะยังไม่เข้า Windows นะครับ มันจะขึ้นหน้าจอของ DOS คล้ายๆกับรูปด้านล่างนี้(อาจจะยาวกว่านี้ขึ้นอยู่กับจำนวนไดรฟ์ในเครื่อง)

ไม่ต้องตกใจนะครับว่าเราทำผิดขั้นตอนมันหรือไม่ได้ผล เลยเข้า DOS เพราะขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนในการสร้าง Boot Sector ให้กับตัวแฟลชไดรฟ์เพื่อให้สามารถอ่านไฟล์ NTLDR จากในตัวแฟลชไดรฟ์ได้(สำหรับขั้นตอนการบู๊ตของ Windows แบบละเอียดผมจะนำมาเขียนในครั้งต่อๆไปนะครับ ขอศึกษาให้รู้จริงก่อน) โดยจะเห็นว่าในบรรทัดสุดท้ายจะถามว่าเราต้องการที่จะเขียนทับ Boot Sector ของไดรฟ์ C: หรือไม่ ให้เราพิมพ์ Y ลงไปนะครับ มันก็จะขึ้นผลการทำงานมาอีก 2-3 บรรทัดแล้วขึ้น C:\\>


สำหรับขั้นตอนด้านบนนั้นไม่ต้องตกใจว่ามันจะเขียนทับข้อมูลในฮาร์ดดิสของเรา นะครับ เพราะไดรฟ์ C: ในตอนนี้มันหมายถึงตัวแฟลชไดรฟ์นั่นเอง แต่เนื่องจากว่า Bios จะมองแฟลชไดรฟ์เป็นไดรฟ์ C: หรือมองเป็นฮาร์ดดิสตัวหนึ่งนั่นเองเลยไม่เข้า Windows ทันที จำเป็นจะต้องทำการสร้าง Boot Sector ให้มันก่อน

หมาย เหตุ สำหรับหน้าจอด้านบนนั้นจะขึ้นครั้งแรกเพียงครั้งเดียวถ้าตราบใดที่เรายังไม่ ได้ทำการ Format แฟลชไดรฟ์ใหม่เพราะมันได้สร้าง Boot Sector ที่ทำให้สามารถอ่านไฟล์ NTLDR จากในแฟลชไดรฟ์ได้แล้ว นั่นหมายถึงว่าเราสามารถที่จะนำแฟลชไดรฟ์อันนี้ไปบู๊ตเครื่องอื่นๆที่มี ปัญหา NTLDR is missing ได้เลย โดยมันจะไม่เข้ามาหน้าจอนี้อีกแล้วเพราะครั้งต่อไปมันจะบู๊ตเข้า Windows เลยครับ

ดังนั้นหลังจากแก้ปัญหาได้แล้วก็ไม่ต้อง Format แฟลชไดรฟ์ใหม่นะครับ เราสามารถที่จะก๊อบปี้ข้อมูลอื่นๆใส่ไว้ในแฟลชไดรฟ์อันนี้เพื่อนำไปใช้งาน ได้ตามปกติ แถมยังสามารถที่จะนำไปใช้บู๊ตเครื่องที่มีปัญหาได้อีกด้วย (ต้องไม่ลบไฟล์ที่ก๊อบปี้ใส่ไว้ในตอนแรกทิ้งนะครับ หรือถ้ารู้สึกว่ามันเกะกะก็สามารถลบบางไฟล์ได้นะ ครับให้เหลือแค่ไฟล์ที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆคือ NTLDR,NTDECT.COM และ Boot.ini ก็พอ อีก 4 ไฟล์ลบทิ้งไปก็ได้ครับ)นับว่าสะดวกจริงๆครับ


มาต่อกันครับหลังจากที่ขึ้น C:\\> ที่หน้าจอแล้วให้เราทำการบู๊ตเครื่องใหม่ จะโดยการกด Ctrl+Alt+Delete หรือกดปุ่ม Reset ก็แล้วแต่สะดวกแต่ที่สำคัญคือจะต้องยังไม่ถอดแฟลชไดรฟ์ออกนะครับเพราะเราจะ ต้องเลือกให้มันบู๊ตจากแฟลชไดรฟ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคราวนี้จะเห็นว่าเราสามารถที่จะบู๊ตเข้า Windows ที่มีปัญหาได้แล้วล่ะครับ และหลังจากเข้า Windows แล้วก็ให้เราทำการก๊อบปี้ไฟล์ NTLDR จากแฟลชไดรฟ์ไปใส่ไว้ใน C:\\> เหมือนกรณีของการใช้ไดรฟ์ A ที่กลล่าวมาข้างต้นนั่นล่ะครับ(ก๊อบปี้เฉพาะไฟล์ NTLDR ก็พอนะครับไฟล์อื่นๆไม่ต้องก๊อบปี้) ในคราวหน้าเราก็สามารถที่จะเข้า Windows ได้โดยไม่ต้องใช้แฟลชไดรฟ์นี้อีกแล้วล่ะครับ


ปล.ขอบคุณสำหรับข้อมูล+โปรแกรมจาก http://tinyempire.com/notes/ntldrismissing.htm ซึ่งผมได้นำมาแก้ไขเล็กน้อยเพื่อให้ง่ายในการใช้งาน(ต้องให้เครดิตต้นฉบับ เค้าด้วย) สำหรับใครที่สนใจจะศึกษาจากต้นฉบับก็เชิญตาม Link ได้เลยนะครับ ซึ่งภายในเว็บนี้จะมีวิธีการใช้ CD/DVD ในการบู๊ตเพื่อแก้ปัญหานี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากใช้แฟลช ไดรฟ์ด้วยครับ

หมายเหตุ สำหรับโปรแกรมทั้งหมดที่ใช้สามารถโหลดได้จาก http://www.fast-files.com/getfile.aspx?file=30538 ครับ

สังคมยังอยู่ได้ เพราะคนไทยยังแบ่งปัน